วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทิปการเรียนE.P (English Program)

พอดีได้อ่านบทความดีดีมาจาก http://club.myfri3nd.com/dek-rak-rian/webboard/1050/22337
เลยนํามาแบ่งปันครับเกี่ยวกับ ทิปการเีรียน EP

การเรียนภาษาก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ที่ใครๆ ก็ต่อได้ แต่แต่ละคนอาจใช้ความพยายามและเวลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่า ใครหยิบจิ๊กซอว์ตัวแรกได้แม่นกว่า ถ้าคุณหยิบจิ๊กซอว์ตัวแรกที่เป็นหลักได้ คุณก็มีกำลังใจที่จะทำต่อ  แต่ถ้าคุณหยิบขึ้นมาแล้ว ต่อไม่ได้สักที คุณหยิบสิบครั้ง คุณก็เลิก 


เพียงเราเริ่มหัดอ่าน จากระดับที่ง่าย และจากเนื้อหาที่เราสนใจก่อน อาจารย์ยกตัวอย่างการสอนของอาจารย์เองว่า นักเรียนจะได้ฝึกอ่านหนังสืออ่านนอกเวลาภาษาอังกฤษ จากระดับง่ายไปถึงระดับยาก โดยไม่ใช้พจนานุกรม แต่จะให้เดาความหมายจากเนื้อเรื่อง เมื่ออ่านจบแล้วสงสัยคำไหนจึงค่อยเปิดหา เพราะจะช่วยให้เราเข้าใจความหมายคำ ๆ นั้นดีขึ้น เพราะเราเคยเห็นคำศัพท์นั้นในรูปประโยคจริงแล้ว 
ขณะอ่าน อย่าเปิดพจนานุกรม
ลักษณะ ที่สำคัญอย่างหนึ่งของนักอ่านที่ดีคือ การไม่เปิดพจนานุกรมขณะอ่าน คนส่วนใหญ่นิยมเปิดพจนานุกรมไปพร้อม ๆ กับอ่านหนังสือไปด้วย เพื่อหาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้ แต่อาจารย์กลับแนะนำว่าพจนานุกรมอังกฤษ ไทยมี ไว้เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของเราอีกครั้ง ไม่ได้มีไว้ให้ค้นความหมายเพียงอย่างเดียว อีกปัญหาหนึ่งของการใช้พจนานุกรมอย่างไม่ระวังคือ ผู้อ่านมักเลือกความหมายแรกของคำที่ปรากฎในพจนานุกรมไปใช้เลย ทำให้เกิดปัญหาว่า ผู้อ่านรู้ความหมายของศัพท์ทุกคำ แต่ก็ยังไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง ทั้งนี้เป็นเพราะความหมายที่เปิดได้จากพจนานุกรมไม่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง นั่นเอง 
กำไรที่สุดถ้าเราอ่านต้นฉบับได้
แล้ว หนูไม่คิดหรือว่า คนแปลเขาแปลเพี้ยนหรือเปล่า ถ้าเป็นแม่สมัยก่อน แม่แปลไม่ได้ แม่ก็จะอ่านข้าม ๆ ไป บางอย่างคิดไม่ออกก็ข้ามไป คนแปลเขาอาจจะแปลผิดก็ได้ อาจารย์พนิตนาฏเคยสอนลูกสาวและลูกศิษย์เสมอว่า การไม่ได้อ่านต้นฉบับคือความขาดทุน ต่อให้อ่านละเอียดแค่ไหน ก็เก็บเนื้อความได้ไม่ครบถ้วนเหมือนได้อ่านต้นฉบับ ดังนั้น การฝึกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เก่ง จึงเป็นการเปิดโอกาสสร้างกำไรให้กับชีวิต เพราะเราจะได้อ่านหนังสือภาษาอังกฤษดี ๆ จากปลายปากกาของนักเขียนโดยตรงเลย 
 
เน้นว่าการอ่านสำคัญมาก...มาก
การ พูดไม่ได้สำหรับครูนั้นเรื่องเล็ก แต่ถ้าอ่านไม่ได้ แปลว่าคุณไม่มีหนทางที่จะหาข้อมูลแล้ว ลองนึกดูเรื่องง่าย ๆ อย่างฝรั่งมาถามทาง เรารู้ว่าเขาถามอะไร รู้แต่ว่า Turn left หรือ Turn right  แต่ Turn ไปแล้ว จะเจออะไร? ไม่ รู้แล้ว นั่นก็เพราะไม่ได้อ่าน ถ้าเราอ่านบ่อย ๆ เราก็จะรู้ เพราะความรู้ทุกอย่างอยู่ในหนังสือ หรือมิเช่นนั้น ก็ต้องเลือกวิธีท่องศัพท์  ถามว่าอยากท่องไหม? ก็คงตอบโดยพร้อมเพรียงกันว่า ไม่อยากท่อง  ปัญหาของเด็กสมัยนี้มีหลายปัญหามาก แต่ต้นตอของปัญหา มาจากการที่เราไม่เป็นนักอ่าน แม้แต่ภาษาไทย เรายังไม่อ่านด้วยซ้ำ  
ผู้ใหญ่มีหน้าที่สร้างสิ่งแวดล้อมให้เด็ก
เรา จะโทษเด็กไม่ได้ว่าเขาไม่อ่านหนังสือ เราต้องดูด้วยว่า ผู้ใหญ่ทำอะไรบ้าง เราเตรียมอุปกรณ์ให้เขาไหม ถ้าเราเตรียมแล้วเขายังไม่อ่าน เราก็ต้องคิดว่า เราตกลงกับเขาดีหรือยัง เคยคุยกับลูกเรื่องข่าวที่เด็กเล่นเกมแล้วตาย ลูกก็พูดขึ้นมาว่า ทำไมเด็กจะไม่ติดเกมล่ะคุณแม่ วัน ๆ หนึ่งไม่รู้จะทำอะไรหรอก อย่างเพื่อนหนูเขากลับบ้านแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็เล่นเกม... ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิดก่อนว่า สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เขาหรือเปล่า หรือ อย่างที่เคยคุยกันเรื่องการย้ายบ้านเพื่อความสะดวกของครอบครัว ลูกสาวไม่อยากย้าย ก็จะเล่าให้เราเห็นภาพเลยว่า เพื่อนที่เค้ามีบ้านอยู่ใกล้โรงเรียน ตอนเช้าก็ตื่นสายได้ ไม่ต้องรีบตื่น ส่วนพ่อแม่ก็ออกจากบ้านแต่เช้า ลูกตื่นมาไม่ต้องเจอใคร พอเลิกเรียน ดูนาฬิกาแล้วพ่อแม่ยังไม่ถึงบ้าน ก็เลี้ยวเข้าร้านเกมบ้าง ร้านการ์ตูนบ้าง แล้วค่อยกลับมาบ้าน กลับมาบ้านก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็แชทกับเพื่อนหรือไม่ก็นอน กว่าพ่อแม่จะกลับมา ลูกก็นอนแล้ว ในวันหนึ่งไม่ได้เจอกันเลย มีอะไรก็ส่ง SMS หากัน พอฟังที่ลูกเล่าแล้วไม่ย้ายบ้านเลย เรื่องนี้สะท้อนได้เลยว่า เมื่อเราบอกว่าเด็กไม่อ่านหนังสือ เราต้องถามตัวเองก่อนว่า เราสร้างความพร้อมให้เขาเป็นนักอ่านหรือเปล่า เมื่อ ได้ฟังข้อคิดดี ๆ เรื่องการอ่านของอาจารย์แล้ว เราทุกคนก็น่าจะตั้งคำถามกับตัวเองบ้างว่า เราได้พยายามมากพอหรือยังกับการอ่านภาษาอังกฤษ ถ้าอยากจะอ่านให้เข้าใจ อ่านแล้วสนุกไปกับเนื้อเรื่อง  ก็ลองทำตามเทคนิคที่มีประโยชน์เหล่านี้ แล้วหยิบหนังสือภาษาอังกฤษสักเล่มขึ้นมาเปิดอ่านกันได้เลย 

1 ความคิดเห็น:

  1. แนะนำที่เรียนพิเศษ ของพวก อีพี สองภาษา คือเราอยู่วัดนายโรง MEP เหมือนกัน
    แล้วเรียนสองที่นี้ดีอ่ะ เลยอยากบอกเพื่อนๆนะ

    มีที่โรงเรียน proInter อยู่ที่เซ็นปิ่นอ่ะ เป็นสำหรับสองภาษาโดยเฉพาะ ครูสอนดีนะ มีทั้งสดกะวิดีโอ ลองดูเว็บนะ www.prointerschool.com

    แล้วก้อเราเคยให้พี่ป.โทมาสอนที่บ้าน จากเว็บนี้ www.tutor-land.com ชื่อพี่ทศ สอนหนุกดีนะ

    ตอบลบ