เป็นเรื่องธรรมดาว่าความคล่องในสองภาษาของแต่ละคนจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ  ตามเวลา ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างเช่น ได้ใช้ภาษาใดภาษาหนึ่งมากกว่าหรือน้อยกว่า,  เมื่อเริ่มเข้าโรงเรียน, พี่น้องใช้ภาษาอะไร และเพื่อนๆ ใช้ภาษาอะไร ที่สำคัญคือ  ความชอบและภาษาที่แต่ละคนเลือกใช้ เช่น เด็กอาจรู้สึกว่าภาษาอังกฤษนั้นง่ายกว่าภาษา  สเปน ความชอบและความถนัดของเด็กจะเปลี่ยนไปพร้อมๆกับการฝึกฝนและประสบการณ์
           บางครั้งอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่พอสมควร  เด็กอาจหยุดพูดภาษาใดภาษาหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเข้าใจภาษานั้น ในช่วงวัยรุ่นเด็กอาจหันไปใช้ภาษาหลักมากขึ้นเรื่อยๆ  และใช้ภาษารองน้อยลงเรื่อยๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลมากสำหรับผู้ปกครองหลายคน
          การผลักดันหรือบังคับให้ลูกพูดภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และไม่สมควรทำ  บางครั้งพ่อแม่อาจใช้วิธีอื่น เช่น บอกกับลูกว่าพวกเขาไม่เข้าใจเวลาที่ลูกพูดภาษาหลัก  พ่อแม่ต้องใช้วิธีที่ดีและบังคับลูกทางอ้อม แต่การบังคับจะไม่ได้ผลในระยะยาว
          วิธีแก้ไขก็คือ  เมื่อเด็กยังเล็กให้หาวิธีอื่นๆที่จะทำให้เด็กได้มีโอกาสใช้ภาษาที่เด็กชอบน้อยกว่า  ยกตัวอย่างเช่น พาไปอยู่กับญาติ, พาไปออกงานเทศกาลที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม และใช้สื่อต่างๆที่บ้านเพื่อส่งเสริมภาษาที่อ่อนกว่า  (เช่น วิดีโอ, ญาติ, เทปเพลง ) เด็กที่เรียนสองภาษาตั้งแต่เริ่มส่วนใหญ่จะสื่อสารได้ทั้งสองภาษา  และสื่อสารได้ดีเหมือนกับที่พวกเขารู้ภาษาเดียว
แหล่งที่มา : A PARENTS'  AND TEACHERS' GUIDE TO BILINGUALISM
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น